ช่องทางการติดต่อ
เรื่องราวรักษ์น้ำ
เรื่องราวรักษ์น้ำ > ปลายน้ำ > เสน่ห์วิถีชาวประมงจังหวัดตรัง ที่เราอยากให้คุณไปสัมผัส
Share
เสน่ห์วิถีชาวประมงจังหวัดตรัง ที่เราอยากให้คุณไปสัมผัส

เสียงคลื่นกระทบฝั่ง หาดทราย สายลม ชวนให้นึกถึงบรรยากาศอันสวยงามของท้องทะเลไทย แต่คนเมืองอย่างเรากว่าจะหาโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศทะเลแบบฟินๆก็ยากอยู่เหมือนกันเนอะ จนเรามีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมของทาง SCG กับโครงการ “รักษ์น้ำจากภูผา สู่มหานที” โดยโครงการนี้เป็นการดูแลตั้งแต่ต้น กลางถึงปลายน้ำกันเลยทีเดียว ซึ่งครั้งนี้เรามากันที่ปลายน้ำชุมชนบ้านมดตะนอย อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

และเมื่อนึกถึงทะเลก็ต้องคู่กับ ‘ชาวประมง’ ซึ่งอาชีพการทำประมงนั้นนับเป็นอาชีพหลักที่สำคัญของชุมชนริมทะเลโดยการไปทำกิจกรรมครั้งนี้ทำให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และเห็นถึงความงดงามของวิถีชีวิตอันแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่เราอยากให้คุณไปสัมผัส


01| วิถีชีวิตชาวประมง

ก้าวแรก..เมื่อมาถึงที่ชุมชนบ้านมดตานอยแล้วต้องขอบอกเลยว่าสวยมากสวยเกินคำบรรยายรูปภาพคงจะบอกเล่าเรื่องราวได้ดีกว่าซึ่งที่นี่ยังเป็นชายหาดที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองมาสัมผัสด้วยตัวคุณเองแล้วคุณจะหลงรักเสน่ห์ความเรียบง่าย และวิถีชีวิตของชาวบ้านแบบใกล้ชิดแบบหายใจรดต้นคอ สนิทกันเหมือนญาติคล้ายกับพี่น้องที่คลานตามกันออกมาเลยล่ะ

ซึ่งวิถีชีวิตของคนที่นี่คือ ‘การทำประมงพื้นบ้าน’ โดยจะทำมาหากินออกหาสัตว์น้ำจำพวกกุ้ง หอย ปู ปลา แถบชายฝั่งทะเลเป็นการทำประมงแบบวันเดียว และต้องทำมาหากินตามฤดูกาล โดยใช้เครื่องมือประมงแบบง่ายๆที่ทำขึ้นเอง ดังนั้น ‘ทะเล’ จึงเปรียบเสมือนลมหายใจของชาวบ้านที่คอยหล่อเลี้ยงและผูกพันกับ ‘วิถีชีวิตชาวประมง’ ตั้งแต่เกิดจนเติบโตซึ่งดูเป็นชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียงแต่เปี่ยมไปด้วยความสุข จึงทำให้เรารู้ว่าพื้นที่ทำมาหากินแห่งนี้เป็นที่รักและหวงแหน เพราะอนาคตทั้งหมดได้ฝากไว้กับชายฝั่งซึ่งเป็นที่พึ่งแรกและที่พึ่งสุดท้ายของชาวประมง

แต่วิถีชีวิตประจำวันคือการทำประมงเพียงอย่างเดียวนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาเมื่อช่วงเวลาที่เกิดมรสุมและการหาปลาที่เน้นปริมาณมากจนเกินไปจึงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชาวบ้าน ดังนั้นเพื่อให้ทะเลอันเป็นแหล่งวิถีชีวิตและบ้านของพวกเขายังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่นั้นการทำประมงอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นมิตรต่อท้องทะเลนี่เองคือทางออกของการปกป้องทรัพยากรทางทะเลของไทย


02 | รักษ์น้ำ จากภูผา สู่มหานที

รู้หมือไร่? เอ้ย! รู้หรือไม่? ประเทศไทยมีทำเลที่ตั้งดีที่สุดแห่งหนึ่งเพราะมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมและมีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลายพอเพียงแก่การดำรงชีวิตโดยเฉพาะทรัพยากรน้ำ เช่นกันถ้าไม่มีน้ำก็ไม่มีชาวประมงเหมือนฉันต้องคู่กับเธอ มีเพียงแต่เธอ แค่เธอเท่านั้นประมาณนี้เลยแหละ SCG จึงห่วงใยใส่ใจดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมาตลอดโดยมุ่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุป้องกันปัญหาในอนาคตและปลูกจิตสำนึกในการร่วมอนุรักษ์น้ำกันมากขึ้นจึงเกิดโครงการ “รักษ์น้ำจากภูผา สู่มหานที” ขึ้นมาโดยนำศาสตร์พระราชาเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ว่า

“การพัฒนาให้มีคุณภาพเพิ่มผลผลิต และใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างชาญฉลาดเพื่อให้มีไว้ใช้จนถึงคนรุ่นหลัง”

จึงเกิดเป็นการสร้างแหล่งที่อยู่อาศัย ‘บ้านปลา’ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์แก่ระบบนิเวศชายฝั่ง ร่วมกับชาวบ้านมดตะนอย อ.กันตัง จ.ตรัง โดยบ้านปลานี้ทำจากปูนทนน้ำทะเลที่ผลิตจากความตั้งใจและใส่ใจธรรมชาติทางทะเลของ SCG ซึ่งปูนมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง ลดการเกิดสนิม เพราะส่วนผสมนั้นมาจากวัสดุธรรมชาตินั่นคือ ปูน หิน ทราย น้ำ โดยเมื่อเราทำการสร้างบ้านปลากันเสร็จแล้วก็ถึงเวลาออกเรือแล้วนำไปปล่อยในพื้นที่ให้เหมาะสมเพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ

อ๊ะ อ๊ะ แต่ว่า “บ้านปลา” ใช่ว่าจะเอาไปปล่อยที่ไหนก็ได้นะต้องมีการปรึกษาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในการเลือกพื้นที่ปล่อยบ้านปลาโดยต้องเลือกพื้นที่ชายฝั่งที่เป็นร่องน้ำมีความลึกมากพอไม่เกะกะการสัญจรของเรือ เพื่อป้องกันอันตรายและการทำลายระบบนิเวศด้วยนะ

03 | ธรรมชาติปกป้องเรา
หลังจากได้มีโอกาสไปพูดคุยกับชาวบ้านชุมชนมดตะนอยมาแล้วทำให้รู้ว่า มนุษย์กับธรรมชาติมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเสมอไม่ว่าในทางที่ดีหรือร้ายก็ตาม และมนุษย์ก็คือตัวการสำคัญที่ทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปซึ่งเมื่อเกิดภัยทางธรรมชาติก็จะได้รับผลกระทบรุนแรงอย่างไม่คาดคิดเลยทีเดียว

ซึ่งวิถีชีวิตของชาวบ้านมดตะนอยก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ทำให้เห็นว่า ‘ธรรมชาติปกป้องเรา’ เพราะเมื่อย้อนไปหลายปีก่อนที่ภาคใต้ของเราเกิดเหตุการซึนามิขึ้นส่งผลให้เกิดความสูญเสียมากมายจนเกินแรงต้านทานของมนุษย์ตัวเล็กๆอย่างเรา แต่ชาวบ้านมดตะนอยถูกปกป้องด้วย ‘สันหลังมังกรเผือก’ ซึ่งเปรียบเหมือนกำแพงทางธรรมชาติที่รับแรงของคลื่นซึนามึให้ลดน้อยลงโดยมีลักษณะเป็นเนินทรายที่โผล่ขึ้นกลางทะเลในช่วงที่น้ำลงจะเห็นได้ชัดเจนซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมเป็นอย่างมาก โดยภายนอกคือความสวยงามแต่แฝงไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำ

อีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่วิถีชีวิตชาวประมงนั่นคือ ‘ป่าชายเลน’ ฟังดูคุ้นหูแต่รู้หรือไม่ว่ามันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง? ป่าชายเลน คือทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศอย่างมากซึ่งเป็นทั้งแหล่งอาหาร ที่หลบภัย และที่อยู่อาศัยของเหล่าสัตว์น้ำนานาชนิด แต่ในปัจจุบันได้ถูกทำลายลงในหลายๆ พื้นที่ ดังนั้นเราควรหันกลับมาดูแลธรรมชาติให้มากขึ้นและธรรมชาติก็กลับมาดูแลเราเช่นกัน

ลองก้าวเท้าออกไปสัมผัสธรรมชาติแล้วคุณจะรู้ว่ามีอะไรอีกมากมายที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อน และธรรมชาตินี่แหละคือเพื่อนแท้ของมนุษย์อย่างแท้จริง ถ้าพร้อมแล้วเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันเถอะ!

ขอขอบคุณบทความจาก Urban Creature
สามารถติดตามบทความได้ที่ : https://urbancreature.co/passion-for-better-scg/

กลับ