|
SCGC ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือวัฏจักรปิโตรเคมีขาลง ต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวน และความต้องการสินค้าที่ลดลง ตามสภาวะเศรษฐกิจโลก โดยในปี 2565 ได้เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมพลาสติกรักษ์โลก มียอดขายเติบโตกว่า 5 เท่าในปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจรีไซเคิลในทวีปยุโรป และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการผลิต ลดต้นทุน เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดอยู่เสมอ รวมถึงทบทวนจัดลำดับความสำคัญ ในการลงทุนโครงการต่าง ๆ ให้เหมาะสม เพื่อรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง โดยยังคงรักษาความเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน เตรียมพร้อมการผลิต เชิงพาณิชย์ของโครงการ Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ครบวงจรแห่งแรกในเวียดนาม สู่ตลาดในช่วงกลางปี 2566 รวมถึงสร้างโอกาสเติบโตในธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมศักยภาพของ SCGC ในอนาคต
ผลการดำเนินงาน ปี 2565
ความท้าทายของธุรกิจ
SCGC เผชิญกับความท้าทายจากวัฏจักรปิโตรเคมีขาลง ด้วยสาเหตุจากกำลังการผลิตใหม่จากจีนที่ออกมาในปริมาณมาก อีกทั้งความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมไปถึงสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยจากภาวะเงินเฟ้อ และนโยบายโควิด 19 เป็นศูนย์ ของจีน ทั้งหมดนี้ทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 โดยมีส่วนต่างราคา PE-N และ PP-N ลดลงกว่า 22% และ 35% ตามลำดับเมื่อเทียบ กับปี 2564 เป็นเหตุให้ SCGC ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อ ลดผลกระทบจาก สถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
SCGC มีรายได้จากการขายรวม 236,587 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 จากปีก่อน เนื่องจากปริมาณขายสินค้าที่ลดลงขณะที่ EBITDA และกำไรสำหรับปี 2565 เท่ากับ 17,745 และ5,901 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 57 และร้อยละ 80 จากปีก่อนตามลำดับ เนื่องจากส่วนต่างระหว่าง ราคาผลิตภัณฑ์และราคาวัตถุดิบ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง
การปรับตัวขององค์กรเพื่อตอบรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2565
ด้านการเงิน
- การบริหารจัดการเพื่อเสริมเสถียรภาพและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน โดย SCGC ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่ารวม 60,000 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ และความเป็นผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ครบวงจรในอาเซียน
- พิจารณาลงทุนอย่างรอบคอบ จัดสรรงบประมาณโดยให้ความสำคัญกับ การลงทุนตามกลยุทธ์หลักของบริษัท เช่น การลงทุนในบริษัทรีไซเคิลที่ยุโรป โครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเวียดนาม หรือ Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) รวมถึงการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอีกทั้ง ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อความปลอดภัย ของพนักงานและคู่ธุรกิจ เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ
ด้านธุรกิจ
- บริหารการผลิตและการขายตลอดห่วงโซ่คุณค่า ให้ทันต่อสถานการณ์ โดยมุ่งเน้นการขายไปยังตลาดที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูง (HVA) เช่่น เม็ดพลาสติกจากเทคโนโลยี SMX™ เม็ดพลาสติกสำหรับผลิตท่อคุณภาพสูง เม็ดพลาสติกสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น
- พัฒนานวัตกรรมพลาสติกรักษ์โลก SCGC GREEN POLYMERTM ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการตอบรับ เป็นอย่างดีจากตลาดโลก มียอดขายกว่า 140,000 ตัน เติบโตกว่า 5 เท่า ในปีที่ผ่านมา
- เม็ดพลาสติก HDPE จากเทคโนโลย SMX™ สำหรับฟิล์มเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และยังสามารถผสมเม็ดรีไซเคิลได้ถึงร้อยละ 30 โดยยังคงความแข็งแรง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ถึงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับเม็ดพลาสติกทั่วไป
- นวัตกรรมสารเคลือบชั้นฟิล์มป้องกันการซึมผ่านของอากาศ (Barrier Coating Technology) สำหรับบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน ทำให้ใช้วัสดุเพียงประเภทเดียวกันทั้งชิ้นงานได้ (Mono-Material) ให้สามารถนำบรรจุภัณฑ์ไปรีไซเคิล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานสากลจาก RecyClass เป็นรายแรกในอาเซียน
- รุกตลาดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality Post-Consumer Recycled Resin: PCR) ในประเทศไทยและทวีปยุโรป กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก รองรับความต้องการที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น การเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ซีพลาสต์ (Sirplaste) ผู้นำด้านพลาสติกรีไซเคิลในโปรตุเกส มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล 36,000 ตันต่อปี พร้อมลงทุนขยายการผลิต เม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงเพิ่มอีก 9,000 ตันต่อปี ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 โดยนำเทคโนโลยีและเครื่องจักรใหม่ มาพัฒนากระบวนการล้างและกำจัดกลิ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลููกค้า และเจ้าของแบรนด์สินค้าที่ต้องการสินค้าคุณภาพ และการเข้าลงทุนหุ้นร้อยละ 60 ใน Recycling Holding Volendam B.V. หรือ คราส (Kras) ผู้นำพลาสติกรีไซเคิลครบวงจร ตั้งแต่การจัดการพลาสติกใช้แล้วไปจนถึงผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล และมีกำลังการผลิต เม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง 9,000 ตันต่อปีและจะเพิ่มขึ้น 2 เท่่าในปี 2566
- เปิดตัวนวัตกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง Circular PP ภายใต้เทคโนโลยี Advanced Recycling เปลี่ยนพลาสติกใช้แล้ว เป็นเม็ดพลาสติกใหม่ และยังได้ร่วมกับ TOYO Engineering ผู้นำด้านวิศวกรรมระดับสากล ศึกษาความเป็นไปได้ ในการขยายกำลังการผลิต ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวอีกด้วย
- นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ SCGC ตลอดห่วงโซ่คุณค่า เช่น การนำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาช่วยในการบริหารจัดการ ต้นทุนวัตถุดิบ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในการวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตและขาย ใช้เทคโนโลยีแบบจำลอง (Digital Twin & Advanced Process Control) ในการสร้างระบบ Always Optimization เพื่อช่วยคาดการณ์ วิเคราะห์ และแสดงข้อมูลการผลิตรายนาที ทำให้วางแผนผลิตและขายผลิตภัณฑ์ที่ได้กำไรสูงสุดอยู่เสมอ
- เตรียมความพร้อมในการเดินโรงงานของโครงการ Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) คอมเพล็กซ์ปิโตรเคมีครบวงจร แห่งแรกในเวียดนาม และวางแผนการบริหารการขาย การจัดการผลิตภัณฑ์ สร้างฐานลูกค้า และวางระบบต่าง ๆ ให้พร้อมเริ่มดำเนินการผลิต เชิงพาณิชย์และรองรับสถานการณ์ตลาด ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ พร้อมเน้นย้ำให้ความสำคัญ กับความปลอดภัยของพนักงาน และคู่ธุรกิจ เพื่อพร้อมเข้าสู่ตลาดในช่่วงกลางปี 2566
- ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของ SCGC (ธุรกิจเคมิคอลส์) จากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยได้มีการติดตาม สถานการณ์เศรษฐกิจ และปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เพื่อประเมินช่่วงเวลา ที่เหมาะสมในการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
- พัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่มสูงหรือ High Value Added (HVA) อย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการนวัตกรรม (Innovation Management) และศูนย์นวัตกรรม i2P โดยยกระดับกระบวนการสร้างนวัตกรรมให้มีความรวดเร็ว ยืดหยุ่นตามสถานการณ์เพิ่มประสิทธิภาพ การวิจัย การพัฒนาการผลิต มีโครงการพัฒนานวัตกรรมกว่า 100 โครงการ และผลิตภัณฑ์ใหม่เฉลี่ยปีละ 20-25 รายการ ซึ่งคาดว่าจะทำกำไรเพิ่มให้กับ SCGC (ธุรกิจเคมิคอลส์) ได้มากกว่า 400 ล้านบาทต่อปี
- ลงนามสัญญาบริษัท Denka Company Limited (Denka) ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายอะเซทิลีนแบล็ก (Acetylene Black) ผลิตภัณฑ์คาร์บอนแบล็กชนิดพิเศษที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ตั้้งเป้ากำลังการผลิตปีละประมาณ 11,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิต ได้ในต้นปี 2568
ด้านคน
- ต่อยอดพัฒนาเตรียมความพร้อมพนักงานของไทย และต่างชาติในเวียดนาม เพื่อให้สามารถปฏิบัติงาน ได้อย่างเต็มความสามารถ ตามมาตรฐานของบริษัท และสอดคล้องตามกฎหมายของเวียดนาม ผ่านกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในห้องเรียน ผ่าน บังคับบัญชา และผ่านการลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง รวมถึงการเดินทางมาเพื่อศึกษา และปฏิบัติงานในไทย อีกทั้งสนับสนุนการแลกเปลี่ยน วัฒนธรรมผ่านการทำกิจกรรม
การดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG เพื่อความยั่งยืน
- SCGC ประกาศเป้าหมายด้าน ESG มุ่ง “ นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ครบวงจรเพื่อความยั่งยืน ในภูมิภาคอาเซียน” เดินหน้าขับเคลื่อน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และมุ่งลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ด้วยการมีประสิทธิภาพด้านพลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน และพัฒนาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมถึงการยกระดับ คุณภาพชีวิตให้กับชุมชน ส่งเสริมอาชีพ และสร้างวิถีสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกและสังคมที่ยั่งยืน
- เร่งพัฒนานวัตกรรมพลาสติกที่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Polymer) ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยตั้งเป้ายอดขาย 1 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573
- มุ่งความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 ด้วยแนวทาง “Low Carbon Low Waste” ได้แก่ การปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนกระบวนการและอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้ พลังงานสะอาดทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล การพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยี ไม่ปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรรยากาศ การนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน มาประยุกต์ใช้ตลอดห่วงโซ่คุณค่า และกิจกรรมชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset)
- นับตั้งแต่ปี 2550 – 2565 SCGC สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้แล้วถึง 577,130 ตันต่อปี หรือร้อยละ 14.4 จากปีฐาน 2564 นอกจากนี้้ในปี 2565 ยังมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมเติม ปัจจุบัน SCGC มีการใช้พลังงานไฟฟ้า จากแสงอาทิตย์ ทั้งหมด 11,431 MWh หรือร้อยละ 0.7 ของความต้องการใช้ไฟฟ้าโดยรวม
- ด้านการพัฒนาสังคม สร้างสิ่งแวดล้อมดี สังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านโครงการ “ปลูก เพาะ รัก” เพิ่่มพื้นที่สีเขียวให้ กับจังหวัดระยอง ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ และพนักงาน ในการปลูกป่าชายเลนและป่าบก โดยได้ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 230,000 ต้น เพิ่มการดูดซับ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 2,995 ตันคาร์บอน นอกจากนี้ยังได้ดำเนินโครงการ “ถุงนมกู้โลก” และโครงการ “ชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ” มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 483 ตันคาร์บอน
- สนับสนุนการลดความเหลื่อมล้ำด้วยการสร้างรายได้จากฟื้นฟูทรัพยากรน้้ำบนพื้นที่แห้งแล้งบนเขายายดา จังหวัดระยอง ร่วมกับชุมชน ภาครัฐ และนักวิชาการ ต่อเนื่องนับ 10 ปีผ่านแนวคิด “เก็บน้้ำดี มีน้้ำใช้” เกิดการจัดการอย่างยั่งยืน ทำให้ชุมชนกลับมามีน้้ำเพียงพอ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมทั้งพัฒนาทักษะให้แก่วิสาหกิจชุมชนระยอง นำนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้า ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ข้อมูลทางการเงิน (ล้านบาท)
|
2565 |
2564 |
2563 |
2562 |
2561 |
ข้อมูลจากงบแสดงฐานะการเงิน |
สินทรัพย์หมุนเวียน |
71,581 |
83,483 |
55,275 |
49,258 |
55,241 |
สินทรัพย์ |
387,154 |
377,174 |
283,614 |
230,543 |
213,263 |
หนี้สิน |
197,806 |
186,092 |
125,102 |
76,364 |
57,028 |
ส่วนของผู้ถือหุ้น |
189,348 |
191,082 |
158,512 |
154,179 |
156,235 |
ข้อมูลจากงบกำไรขาดทุน |
รายได้จากการขาย |
236,587 |
238,390 |
146,870 |
177,634 |
221,538 |
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย * |
243,839 |
214,152 |
130,668 |
167,535 |
196,813 |
กำไรสำหรับปี ** |
5,901 |
28,931 |
17,667 |
15,480 |
29,166 |
EBITDA *** |
17,745 |
41,465 |
30,965 |
32,258 |
46,117 |
* ปี 2562 มีการจัดประเภทรายการใหม่ และปี 2561 มีการปรับการแสดงข้อมูลตามส่วนงานธุรกิจ
** กำไรสำหรับปีส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่
*** กำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย รวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม |