Skip to content
SCG Community out of poverty
หน้าแรก
รู้จัก เลิกแล้ง เลิกจน
ความรู้และความสำเร็จ
วิดีโอสร้างแรงบันดาลใจ
ข่าวสาร และกิจกรรม
E-CATALOG
‘‘เลิก
แล้ง
เลิก
จน
’’
ช่วยชุมชนรอดภัยแล้ง และปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
‘‘เลิก
แล้ง
เลิก
จน
’’
ช่วยชุมชนรอดภัยแล้ง และปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
‘‘ความยากจน’’
คือ ปัญหาของสังคมไทย
ซึ่งเป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำ
การขาดความรู้ ขาดรายได้
รวมทั้งภัยแล้งซ้ำซาก
ส่งผลโดยตรงต่อเกษตรกร
Previous
Next
ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา เอสซีจีร่วมกับเครือข่าย
แก้ปัญหาภัยแล้ง
โดยสืบสาน รักษา ต่อยอด
แนวพระราชดำริ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเข้าอยู่หัว
ส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้ เรียนรู้จัดการน้ำ
เพื่อการเกษตรอย่างเพียงพอ
มีความรู้การตลาดแปรรูปผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่ม
สร้างรายได้มั่นคง
นำมาสู่บทสรุปขยายผล
‘‘เลิก
แล้ง
เลิก
จน
โมเดล’’
6 ขั้นตอน
‘‘เลิกแล้ง เลิกจน’’ โมเดล
สามัคคี
พึ่งตนเอง
1
สามัคคีเข้มแข็ง พึ่งตนเอง
ลงมือทำ แก้ปัญหาด้วยความรู้
เรียนรู้ จัดการน้ำ
ด้วยเทคโนโลยี
2
เรียนรู้ จัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ
เข้าใจพื้นที่ รู้ความต้องการ บริหารสมดุลน้ำ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ พัฒนาแหล่งน้ำ
หาน้ำได้ เก็บน้ำไว้
ใช้น้ำเป็น
3
สร้างแหล่งกักเก็บน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำ
เกษตรให้เพียงพอความต้องการใช้
ใช้น้ำซ้ำให้คุ้มค่าด้วยระบบน้ำหมุนเวียน
ฟื้นฟูป่าต้นน้ำเป็นแหล่งน้ำต้นทุน
เกษตรผสมผสาน
บริหารความเสี่ยง
4
ปลูกเพื่อกิน ใช้ และขาย สร้างรายได้ทั้งปี
วางแผนเพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพ
พื้นที่และภูมิอากาศ
เข้าใจตลาด
ตรงใจลูกค้า
5
ปลูกพืชที่เป็นความต้องการของตลาด
แปรรูปผลผลิตให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
ขายผ่านช่องทางตลาดที่เข้าถึงลูกค้า
เศรษฐกิจเพิ่มคุณค่า
ชุมชนพัฒนายั่งยืน
6
รวมกลุ่มชุมชนให้เข้มแข็ง
จัดการผลผลิตเกษตร และการตลาด
จัดการระบบเงินกองทุน และสวัสดิการ
สามัคคี
พึ่งตนเอง
1
สามัคคีเข้มแข็ง พึ่งตนเอง
ลงมือทำ แก้ปัญหาด้วยความรู้
เรียนรู้ จัดการน้ำ
ด้วยเทคโนโลยี
2
เรียนรู้ จัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ
เข้าใจพื้นที่ รู้ความต้องการ บริหารสมดุลน้ำ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ พัฒนาแหล่งน้ำ
หาน้ำได้ เก็บน้ำไว้
ใช้น้ำเป็น
3
สร้างแหล่งกักเก็บน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำ
เกษตรให้เพียงพอความต้องการใช้
ใช้น้ำซ้ำให้คุ้มค่าด้วยระบบน้ำหมุนเวียน
ฟื้นฟูป่าต้นน้ำเป็นแหล่งน้ำต้นทุน
เกษตรผสมผสาน
บริหารความเสี่ยง
4
ปลูกเพื่อกิน ใช้ และขาย สร้างรายได้ทั้งปี
วางแผนเพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพ
พื้นที่และภูมิอากาศ
เข้าใจตลาด
ตรงใจลูกค้า
5
ปลูกพืชที่เป็นความต้องการของตลาด
แปรรูปผลผลิตให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
ขายผ่านช่องทางตลาดที่เข้าถึงลูกค้า
เศรษฐกิจเพิ่มคุณค่า
ชุมชนพัฒนายั่งยืน
6
รวมกลุ่มชุมชนให้เข้มแข็ง
จัดการผลผลิตเกษตร และการตลาด
จัดการระบบเงินกองทุน และสวัสดิการ
ความสำเร็จ
12.5 ล้าน
(ลบ.ม.)
เพิ่มน้ำต้นทุนในระบบ
250 ชุมชน
47,500 ครัวเรือน 30 จังหวัด
ผู้ได้รับประโยชน์
เพิ่ม 3-4 เท่า
จากรายได้เดิม
100,466
ฝายชะลอน้ำ
9
สระพวง
8
แก้มลิง
หัวใจสำคัญที่ชุมชนที่จะเลิกแล้งเลิกจนได้อย่างยั่งยืน
คือ คนในชุมชนต้องร่วมแก้ปัญหา ใช้เครื่องมือสารสนเทศจัดการแหล่งน้ำ และส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันการใช้น้ำอย่างเป็นธรรม
เพื่อที่จะนำน้ำไปต่อยอดสร้างรายได้ให้ชุมชนตลอดทั้งปี
ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย
องคมนตรี ประธานคณะกรรมการกิจการ
สังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี
ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าชุมชนสามารถรอดความแล้งได้ แม้ในปีที่แล้งที่สุดในรอบ 40 ปี
ชุมชนพร้อมปรับตัวรับมือกับความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ บริหารความเสี่ยงด้านการจัดการทรัพยากรดิน น้ำ ป่า
เพื่อชุมชนจะไม่ประสบปัญหาภัยแล้งอีก และมีรายได้ที่มั่นคง นำพาประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์
ในพระบรมราชูปถัมภ์
กว่า 10 ปี ที่เอสซีจีร่วมกับเครือข่ายแก้ปัญหาภัยแล้ง เพื่อฟื้นฟู และอนุรักษ์ป่าต้นน้ำให้อุดมสมบูรณ์ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำชุมชน และ สนับสนุนให้ชุมชน สร้างมูลค่าเพิ่ม เรียนรู้การตลาด ผ่านโครงการ “พลังชุมชน”
พลิกชีวิตความเป็นอยู่ให้กับ 250 ชุมชน 47,500 ครัวเรือน ใน 30 จังหวัด มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 3-4 เท่า
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส
กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี
ปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อน มีน้ำไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนการเกษตรเมื่อถึงฤดูแล้งของทุกๆปี มีชุมชนที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำในขั้นวิกฤติกว่า 30,000 ชุมชน ทั่วประเทศ
ชุมชนต้องร่วมมือกันซ่อมบำรุงแหล่งน้ำ หันมาเก็บกักน้ำ และบริหารน้ำในพื้นที่ตัวเอง ใช้น้ำหมุนเวียน และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทำเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่
ปลูกพืชหลากหลาย ลดพืชเชิงเดี่ยว เพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอ ลดรายจ่ายและมีรายได้ที่ยั่งยืน
ดร.รอยล จิตรดอน
ประธานกรรมการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.)
ในอดีตบ้านสาแพะเหนือ เจอกับวิกฤติภัยแล้งมาตลอด มีรายได้จากการทำนาปีละครั้ง พวกเราจึงตัดสินใจรวมตัวกันลุกขึ้นแก้ไขปัญหา โดยมีเอสซีจี และ สสน. เป็นพี่เลี้ยง ตั้งแต่การสร้างฝายชะลอน้ำฟื้นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมบนภูเขา เรียนรู้การทำสระพวง ทำฝายใต้ทราย กักเก็บน้ำไว้ทำเกษตร ไม่ปล่อยให้น้ำไหลหลากทิ้งไป เปลี่ยนมาปลูกพืชแบบผสมผสาน อาทิ ถั่วพุ่ม เป็นพืชส่งออกญี่ปุ่น ที่ราคาดี
ทุกวันนี้ แต่ละครอบครัว มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า สามารถทำเกษตรได้ทั้งปี
นายมานพ ปั้นเหน่ง
บ้านสาแพะเหนือ จังหวัดลำปาง
ภาครัฐมีนโยบาย การแก้ไขปัญหาน้ำ 4 เรื่องสำคัญ คือ น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่ออุตสาหกรรม และน้ำเพื่อการรักษาระบบนิเวศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
จะต้องดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีน้ำอุปโภค บริโภคอย่างเพียงพอ ไม่ขาดแคลน และสนับสนุนกรมชลประทาน ทั้งในและนอกเขตชลประทาน
รวมถึงทุกภาคส่วนของราชการพร้อมที่จะร่วมเดินหน้าผลักดัน เลิกแล้ง เลิกจน โมเดล อย่างเต็มที่สุด เพื่อช่วยประชาขนแก้ปัญหาภัยแล้ง และความยากจนให้หมดไป
นายจตุพร บุรุษพัฒน์
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม