มีข่าวของการคาดการณ์จากนักวิทยาศาสตร์และนักสิ่งแวดล้อมออกมากมายว่า เหลือเวลาอีกไม่นานที่จะกู้วิกฤตสิ่งแวดล้อมในประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การลดลงของพื้นที่ป่า วิกฤตขยะในทะเล และทรัพยากรที่มีจำกัด
ในขณะที่เวลาลดน้อยลงเรื่อยๆ สวนทางกับปัญหาที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้เด็กและเยาวชนหลายคนจากทั่วโลก (ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้รับผลกระทบโดยตรง) ลุกขึ้นมาเรียกร้องเพื่อให้เกิดการตระหนักและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และต่อไปนี้คือ 3 พลังเล็กๆ ของเด็กเปลี่ยนโลก ผู้ที่ประกาศว่าจะไม่ทนกับโลกที่มีแต่ปัญหาสิ่งแวดล้อม
Greta Thunberg
นักสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดนวัย 16 ปี กับการรณรงค์ผ่านป้ายที่เขียนว่า Skolstrejk för klimatet (หยุดเรียนและประท้วงเพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศ) และการรณรงค์ หยุดเรียนทุกวันศุกร์เพื่อรณรงค์ Climate Strike และ Friday for Future ที่เธอเป็นคนเริ่มและตอนนี้ความตื่นตัวนั้นได้กระจายไปทั่วโลก
เรารู้จักเกรต้าจากการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าผู้นำโลก ในเวทีการประชุมแก้ไขปัญหาโลกร้อน COP24 ของ UN ที่โปแลนด์ ปี 2018 สุนทรพจน์ของเกรต้าตรงไปตรงมา และย้ำให้ผู้นำโลกเห็นถึงความล้มเหลวต่อการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ภายหลังการประชุม COP24 ที่ไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนเพื่อแก้วิกฤตสภาพภูมิอากาศ แต่สิ่งที่เกรทต้าพูดก็ได้สร้างความตระหนักไม่มากก็น้อยต่อทุกคน
ล่าสุด เกรต้า ปฏิเสธการนั่งเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเข้าร่วมประชุม UN Climate Action ที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และ COP 25 ที่ ซานติอาโก ประเทศชิลี และงานอื่นๆ ซึ่งเป็นการประชุมเกี่ยวกับการแก้ไขสภาวะโลกร้อน เนื่องจากการเดินทางโดยเครื่องบินปล่อยมลพิษสูง แต่ในที่สุดก็มีผู้สนับสนุนการเดินทางด้วยเรือใบเร็ว ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ข้ามมหาสมุทร แอตแลนติก จากอังกฤษไปที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเธอตอบตกลงและจะใช้เวลาในการเดินทางสองสัปดาห์ นับเป็นบทบาทที่สำคัญของการเป็นนักสิ่งแวดล้อมของเกรต้า
ลิลลี่ – ระริน สถิตธนาสาร
นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมไทยวัย 12 ปี กับความพยายามที่จะผลักดันให้ภาครัฐและเอกชน ใช้มาตรการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ อย่างจริงจังตั้งแต่เธออายุ 8 ขวบ ล่าสุดในงาน Good Day Say No to Plastic Bag ที่หาดเจ้าสำราญ ลิลลี่ได้เสนอและฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เร่งมาตราการแก้ไขสิ่งแวดล้อม เช่น การหยุดตัดไม้ทำลายป่า ลดเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง บรรจุวิชาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน หยุดการใช้สารเคมี และให้มี Green Guidline ให้กับร้านอาหารและร้านค้า ให้ใช้ภาชนะและบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ถ้าลิลลี่ยังมุ่งมั่นกับการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ก้าวนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การผลักดันที่ผ่านๆ มาของเธอ เข้าถึงตัวผู้มีอำนาจบังคับใช้สูงสุด และประเทศไทยรวมถึงโลกใบนี้ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นโดยก่อนหน้านี้ ลิลลี่ยังเคยได้รับรางวัล Yunus & Youth Environment Ambassador จาก Professor Muhammad Yunus (ชาวบังคลาเทศที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพผู้มุ่งเน้นการขจัดความยากจน ขจัดการว่างงาน และขจัดการปล่อยคาร์บอน) จากการที่เธอเป็นตัวแทนผลักดันเรื่องสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นเธอยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการรณรงค์ Climate Strike หยุดเรียนรณรงค์โลกร้อนร่วมกับคนอื่นๆ ทั่วโลก
Ryan Hickman
นักธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมชาวอเมริกาวัย 9 ขวบ เจ้าของ Ryan’s recycling company เริ่มการรีไซเคิลตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จากการตามพ่อไปร้านรับรีไซเคิลขยะในท้องถิ่น รับขยะจากเพื่อนบ้าน และลูกค้า เพื่อนำมาคัดแยกขยะ และนำไปที่ศูนย์รีไซเคิล ด้วยความตั้งใจที่ไม่อยากให้ขยะหลุดไปในท้องทะเล
ตอนนี้เขาได้รีไซเคิลขวดและกระป๋องไปแล้วกว่า 567,000 ชิ้น หรือขยะน้ำหนักกว่า 98,000 ปอนด์ และได้บริจาคเงินเพื่อปกป้องสัตว์ทะเลให้ศูนย์ Pacific Marine Maทmal Center
นอกจากเรื่องเรียน เขาตั้งใจจะนำรายได้ที่ได้จากการทำธุรกิจนี้ไปซื้อรถเก็บขยะ เพื่อจะได้รีไซเคิลได้เต็มรูปแบบมากขึ้น และต้องการเก็บขยะชนิดอื่นๆ นอกจากขวดหรือกระป๋อง ถือเป็นตัวอย่างของการนำเอาปัญหาสิ่งแวดล้อมมารวมกับการทำธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ด้านต่างๆ ของชีวิต โดยที่ประโยชน์นั้นยังส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ทั้ง 3 คนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพลังเล็กๆ ของเด็กจากทั่วโลก เพราะความจริงแล้วยังมีเด็กๆ อีกหลายคนที่กำลังทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่เพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกใบนี้อยู่ และไม่ว่าคุณจะเป็นเด็ก เยาวชน หรือผู้ใหญ่ คุณก็สามารถเป็นพลังเล็กๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้นได้เช่นกัน
ที่มา: