แนวคิดของแคมเปญ “เอสซีจี ธุรกิจยั่งยืน”

---

          ที่ผ่านมา เมื่อมีการกล่าวถึงคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงแต่การทำการเกษตร ต้องเหนื่อย ต้องลำบาก และใช้ชีวิตอย่างประหยัด ซึ่งตรงข้ามกับความหมายที่แท้จริงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมุ่งหวังให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งประกอบด้วยหลักคิดง่ายๆ ได้แก่ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข 4 มิติ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน

          เอสซีจี เป็นหนึ่งในองค์กรที่น้อมนำหลักคิดนี้มาปรับใช้ และได้พิสูจน์แล้วว่าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาใช้ได้กับธุรกิจ จนทำให้เกิดผลสำเร็จที่จับต้องได้จริง โดยองค์กรสามารถผ่านพ้นวิกฤตต่างๆและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนมากว่า 100 ปี

          เมื่อนำหลักคิดนี้มาสื่อสารกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ จุดมุ่งหมายแรกคือ เปลี่ยนการรับรู้ (Perception) ด้วยการนำเสนอในรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากภาพที่คุ้นเคยของ “พอเพียง” ที่ผ่านๆ มา โดยยกตัวอย่างว่า ถ้ามีคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเริ่มทำธุรกิจ หรือมีกิจการของตนเองอยู่แล้ว นำหลักคิดนี้ไปใช้ ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร โดยเล่าเรื่องผ่าน “คุณพอล” เจ้าของธุรกิจถั่วเหลือง ซึ่งเป็นธุรกิจทั่วๆไป เขาอยากขยายธุรกิจให้เติบโต แต่ไม่ได้ใช้หลักคิดนี้มาเป็นเครื่องนำทาง ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบ และเขาจะแก้ปัญหานี้อย่างไรด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

          เอสซีจี มุ่งหวังว่า คนรุ่นใหม่ หรือนักธุรกิจทุกคน ที่ได้เห็นวิดีโอชิ้นนี้จะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของปรัชญานี้มากขึ้น รวมทั้งเกิดแรงบันดาลใจในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการทำธุรกิจจนเติบโตอย่างยั่งยืน

          “เพราะพอเพียงไม่ใช่หยุดโต แต่ช่วยให้โตไม่หยุด…อย่างยั่งยืน”

เรื่องย่อ

          นี่คือเรื่องราวของคุณ พอล เจ้าของธุรกิจถั่วเหลือง ที่ทำธุรกิจด้วยความไม่พอเพียง ขยายกิจการมั่วไปหมดจนธุรกิจล้ม ทางออกก็คือ เลือกทำเฉพาะสิ่งที่ตนถนัด

(ห่วงที่ 1 - ความพอประมาณ)

          หลังจากนั้นก็ต้องรู้จักเสริมสร้าง หาความรู้มาต่อยอดให้กับธุรกิจจนเกิดเป็นนวัตกรรมจากถั่วเหลือง จนทำให้ธุรกิจสามารถเจริญเติบโต วิ่งฉิว

(ห่วงที่ 2 - ความมีเหตุผล)

          และเมื่อพอลตรวจสอบพบว่า ถั่วของเขามีปัญหา ก็รีบแก้ไขแม้จะไม่มีใครเห็น

(2 เงื่อนไข – ความรู้และคุณธรรม)

          ท้ายที่สุด พอลเตรียมรับมือกับวิกฤตต่างๆที่จะเข้ามา ก็คือ การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าค่าเงินบาทจะลอยตัวหรือไม่

(ห่วงที่ 3 – การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี)

           ทั้งหมดก็คือ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พอลนำมาปรับใช้ เพื่อให้ธุรกิจของตนเองยั่งยืน เหมือนที่ เอสซีจี น้อมนำแนวคิดนี้มาใช้ดำเนินธุรกิจจนเติบโตมาได้กว่า 100 ปีเช่นกัน ซึ่งคนที่กำลังคิดริเริ่มทำธุรกิจ หรือมีกิจการเป็นของตนเองสามารถนำหลักคิดนี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง