5 เคล็ดลับจาก 5 ธุรกิจ ปรับตัวอย่างไรให้ “อยู่รอด”

HIGHLIGHTS

  • สำรวจ 5 เคล็ดลับเบื้องหลังของ 5 ธุรกิจที่ทำให้พวกเขา “อยู่รอด” ในยุคที่สถานการณ์มีความผันผวนสูง ได้แก่ เอสซีจี โลจิสติกส์, Moreloop, ซีแพค, สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น, กระเบื้องหลังคาซีแพค
  • การอยู่รอดในธุรกิจยุคนี้ หัวใจสำคัญอยู่ที่การปรับตัว พร้อมเปลี่ยนแปลงต่อสถานการณ์ต่างๆ
การทำธุรกิจในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นความท้าทายสำหรับทุกธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจยังสามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน วันนี้เอสซีจีเลยมีเคล็ดลับการปรับตัว เปลี่ยนมุมมองของ 5 ธุรกิจ ที่พิสูจน์มาแล้วว่าทำได้จริงและมีส่วนช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดได้จวบจนทุกวันนี้ 5 เคล็ดลับจะมีอะไรบ้าง ชวนติดตามกันครับ

1. มองหาโอกาสให้เจอ Change = Chance

ไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดมุมมองธุรกิจโลจิสติกส์ในปัจจุบันว่า มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสจะถูกดิสรัปท์สูง เอสซีจี โลจิสติกส์จึงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ ๆ เพราะเชื่อว่าในวิกฤติมักมีโอกาสเสมอ เราเลยพัฒนาจากการขนส่งในระดับธุรกิจสู่ธุรกิจ มาขนส่งอย่างครบวงจร นอกจากนั้น ยังมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลจะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ เพื่อให้มีความแม่นยำและลดการผิดพลาด ขณะเดียวกันก็มุ่งส่งเสริมทักษะใหม่ ๆ ในการทำงาน (Up-Skill, Re-Skill) ของพนักงาน โดยพนักงานในองค์กรที่ต้องปรับเปลี่ยนหน้าที่การทำงานเมื่อมีเทคโนโลยีแทนที่ จะได้รับการพัฒนาทักษะผ่านหลักสูตรพิเศษที่เรียกว่า 70-20-10 หมายถึง การมุ่งเน้นการฝึกปฏิบัติจากการทำงานจริง ร้อยละ 70 การทำงานโดยมีการให้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ร้อยละ 20 และการเรียนรู้ทฤษฎีในการทำงานอีกร้อยละ 10

2. ต่อยอดธุรกิจเดิม สู่ธุรกิจใหม่

การทำธุรกิจสามารถคิดดัดแปลง ต่อยอดได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องอยู่กับธุรกิจเดิมตลอดไป อย่างกรณีของ Moreloop แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมผ้าเหลือใช้มาส่งต่อให้กับคนที่ต้องการเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบที่มีอยู่ให้เกิดคุณค่า ไม่ต้องทิ้งสียเปล่า ซึ่งธุรกิจนี้เป็นรูปแบบธุรกิจที่เกิดจากการต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่เคยเป็นโรงงานผ้ามาก่อน และเมื่อมองเห็นโอกาสก็ทำการต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ จนเกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่คุ้มค่า เพราะได้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จากธุรกิจดั้งเดิมให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยเสริมศักยภาพของ Moreloop ให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพได้

คุณอมรพล หวะนันท์ และคุณธมลวรรณ วิโรจน์ชัยยันต์ ผู้ก่อตั้ง Moreloop เล่าว่า สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจนั้น คือ

  1. โลกหมุนเปลี่ยนไปแล้ว ต้องปรับตัวให้เร็ว
  2. ปรับความคิดใหม่ และหาความรู้เพิ่มเติม
  3. ลองอะไรใหม่ๆให้เร็วที่สุด

เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญในการทำธุรกิจให้เติบโตและอยู่รอดในยุคนี้ คือ เข้าใจและปรับตัวให้ทันโลก

3. สร้างเครือข่าย พร้อมเปิดใจเรียนรู้

อีกหนึ่งกรณีศึกษาแห่งการปรับตัวทางธุรกิจ คือธุรกิจ CPAC ที่ปรับเปลี่ยนจากการเป็นผู้ผลิตสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นครบวงจร โดย คุณชูโชค ศิวะคุณากร Construction Solution Director – CPAC เล่าว่า สิ่งที่ CPAC ทำ คือการเข้าไปทำความรู้จักกับลูกค้าเพื่อมองเห็นปัญหาของลูกค้าจริง ๆ แล้วนำมาพัฒนาหาโซลูชั่นที่จะเข้ามาตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาของลูกค้า ด้วยความคิดที่ว่าเมื่อเจอปัญหาเราต้องรีบเข้าไปเพื่อหาหนทางแก้ไข และในบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องเป็นคนทำทุกอย่าง เราสามารถสร้างความร่วมมิอกับผู้เชี่ยวชาญท่านอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ ต้องกล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มีวิธีคิดแบบ Open Minded, Fail Fast, Learn Fast เพราะการลงมือทำทันที ช่วยสร้างให้เกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง เมื่อมีโอกาสแล้วควรลงไปหาช่องทางเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ

4. หัวใจการทำธุรกิจคือ “ใส่ใจลูกค้า” ไม่หยุดพัฒนาแม้ความต้องการเปลี่ยนไป

หนึ่งกรณีศึกษาน่าสนใจ มาจากบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทด้านเครื่องจักรเกษตรกรรมที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน โดยหัวใจหลักที่ทำให้คูโบต้าสามารถรักษาลูกค้าไว้ได้อย่างต่อเนื่อง คือ การใส่ใจลูกค้า และไม่หยุดพัฒนาแม้ความต้องการของลูกค้าจะเปลี่ยนไป โดย คุณสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าให้เห็นภาพว่า คูโบต้ามีการพัฒนาสินค้าตอบวิถีชีวิตของลูกค้าที่เปลี่ยนไป โดยเมื่อลูกค้ามีอายุมากขึ้น ทางบริษัทก็มีการปรับให้เครื่องจักรใช้งานได้ง่ายสะดวกสบายมากขึ้น เป็นต้น นอกจากนั้นยังปรับตัวต่อยุคดิจิทัล ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่น KAS Crop Calendar โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกข้าวให้เกษตรกรกับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นวิธีการปลูกข้าว วิธีการดูแลการให้น้ำ

5.ต้องพร้อมเปลี่ยน เพราะโลกนี้ไม่มีสูตรสำเร็จ

อีกเคล็ดลับสำคัญที่เกิดจากการทดลองทำจริงจาก SCG คือ การปรับเปลี่ยนตัวเองจากการเป็นเพียงผู้ผลิตสินค้า ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการ โดย คุณฎายิน เกียรติกานกุล Marketing Director บริษัท กระเบื้องหลังคาซีแพค จำกัด เล่าให้ฟังว่า จากการศึกษาเทรนด์เรื่องบ้านในปัจจุบัน พบว่าการปรับปรุงบ้านเก่ากำลังเป็นที่นิยม ทำให้เอสซีจีผันตัวเองมาสู่ธุรกิจบริการมากขึ้น โดยให้บริการปรับปรุงหลังคาบ้านเก่า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เพราะถือเป็นกระบวนการทำงานคนละแบบกับการผลิต ซึ่งเอสซีจีคุ้นเคย ทำให้ทีมงานต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น ทำความเข้าใจว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคืออะไร จนนำไปสู่การติดทักษะให้คนในบริษัทเพื่อให้สามารถทำงานตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ โดยสิ่งสำคัญของการพัฒนาคน คือ ต้องทำให้พนักงานรู้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะเปลี่ยนแปลงนั้นดีต่อลูกค้าและตัวเข้าอย่างไร นอกจากนั้น ยังเสริมความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน เช่น การนำโดรนมาใช้บินสำรวจหลังคาเพื่อประเมินหาโซลูชั่นการทำงานที่เหมาะสมก่อนลงมือทำ ทั้งหมดนี้ คือการเปลี่ยนแปลงที่ยอมหลุดจากสูตรการทำงานแบบเดิมๆ มาสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต

ทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าวันนี้ธุรกิจทั้งหลายล้วนปรับตัว ปรับเปลี่ยนธุรกิจไปจากเดิม เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น หันมามองหาโอกาสใหม่ๆ ที่แม้ไม่เคยทำ แต่ก็กล้าลองกล้าเสี่ยง ทั้งยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนเสริมเพื่อเพิ่มการทำงานให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ธุรกิจยังคงมั่นคงอยู่ได้ แม้ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจทุกวันนี้จึงไม่ใช่แค่การเดินตามเกมเดิมที่เคยเป็นไปมา แต่ต้องพร้อมปรับตัวในทุกสถานการณ์

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่ ?

Average rating 4.8 / 5. Vote count: 16

No votes so far! Be the first to rate this post.