SCG Green Choice คุณเลือก เพื่อโลกได้

scg_greenchoice_logo_2

สินค้ามากมายและหลากหลายเรียงรายบนชั้นสินค้าแต่ละกล่องหรือแพ็กบรรจุภัณฑ์แสดง
ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า และข้อมูลสรรพคุณอื่น ๆ คุณอาจเลือกหยิบสินค้าของแบรนด์ที่คุ้นเคย
เพราะใช้อยู่ประจำ หรือเพราะความสวยงามแปลกใหม่ หรืออาจเลือกดูที่ราคา เปรียบเทียบ
ความคุ้มค่าด้านปริมาณและคุณภาพ แต่คุณเคยเลือกเพราะสินค้านั้นมีส่วนช่วยดูแลโลกไหม
ถ้าบนฉลากสินค้ามีเครื่องหมายรับรองว่า สินค้านี้มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ช่วยลดของเสีย ช่วยใช้น้ำน้อยลง ฯลฯ

คุณจะชั่งใจเลือกใช้สินค้านี้มากขึ้นหรือไม่
ถ้าคุณเลือกเพื่อโลกได้...คุณจะเลือกไหม

เข้าใจฉลากสิ่งแวดล้อม

จุดเริ่มต้นของฉลากสิ่งแวดล้อม (Eco-label) ย้อนกลับไปได้ไกลถึงกว่า 40 ปี จากกระแสความห่วงใยสิ่งแวดล้อมในกลุ่มประเทศยุโรป ฉลากสิ่งแวดล้อมฉลากแรก Blue Angel เกิดขึ้นในปี 2521 เป็นฉลากของประเทศเยอรมนีที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยแนะนำสินค้า ที่ส่งผลกระทบน้อยต่อสิ่งแวดล้อมให้ผู้บริโภครู้จักกระตุ้นให้ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นเครื่องมือ ส่งเสริมตลาดสินค้าสีเขียว หลังจากนั้นก็มีฉลากสิ่งแวดล้อมออกตามมาอีกมาก เช่น EU-Flower, Nordic White Swan ฯลฯ ทุกวันนี้การออกฉลากสิ่งแวดล้อมไม่ได้มีอยู่แต่ในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป แต่ยังแพร่หลายไปทั่วโลก ทั้งประเทศผู้นำด้านเศรษฐกิจ อย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย แคนาดา และหลายประเทศในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย ฯลฯ
ฉลากสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของความ “สมัครใจ” และ “ใส่ใจ” ของผู้ประกอบการ เพราะไม่ได้มีกฎหมายบังคับ แต่สินค้าต้อง ผ่านเกณฑ์ประเมินคุณสมบัติว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่ และอย่างไร

ปัจจุบันฉลากสิ่งแวดล้อมแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ คือ Type I ฉลากสิ่งแวดล้อมที่ออกโดยหน่วยงานอิสระ มีระบบการประเมิน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน ISO 14024 ตัวอย่างในประเทศไทย คือฉลากเขียว ของสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย Type II ประเมินและรับรองโดยเจ้าของสินค้าเอง (Self-Declared) ตามมาตรฐาน ISO 14021 ตัวอย่างในประเทศไทยคือ SCG eco value ของเอสซีจี และ Type III เป็นฉลากที่แสดงข้อมูลหรือตัวเลขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่ประเมินจาก วัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน ISO 14025 ตัวอย่างในประเทศไทย เช่น ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์
ฉลากลดคาร์บอน ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ฯลฯ

ประโยชน์แท้จริงของฉลากสิ่งแวดล้อมก็คือ การอนุรักษ์คุณค่าของสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ต่อไปยาวนาน โดยการให้ข้อมูลสื่อสาร แก่ผู้บริโภค เพื่อส่งเสริมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้มาแทนสินค้าที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง

From SCG ECO Value to SCG Green Choice

ปี 2563 เอสซีจีได้ประกาศเปลี่ยนชื่อฉลากจาก SCG eco value เป็น SCG Green Choice โดยยังคงอ้างอิงมาตรฐาน ISO 14021 เพื่อเป็นตัวช่วยผู้บริโภคในการเลือกสินค้า บริการ และโซลูชันที่ตอบโจทย์ความใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมกับมั่นใจได้ว่าจะเป็นสินค้า บริการ และโซลูชันที่รักษ์โลกและดีต่อคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริง

ฉลาก SCG Green Choice ในปัจจุบัน ถูกนำมาใช้แทน SCG Eco Value ซึ่ง เอสซีจี เป็นองค์กรไทยรายแรกที่กำหนดฉลากสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเภทการรับรองตนเอง

scg_greenchoice_logo_2
line-drak-green
line-light-green

Green

หมายถึง ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และผู้บริโภครวมทั้งคำนึงถึงความต้องการ
ของผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มอื่น ๆ ด้วย

Choice

หมายถึง ทางเลือก เราสามารถเลือก
เพื่อโลกได้ รวมทั้งเลือกสิ่งที่ดีเพื่อตนเอง
และครอบครัว

ผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับฉลาก SCG Green Choice จะต้องเป็นสินค้า บริการ และโซลูชันที่มีคุณสมบัติความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ดีกว่าสินค้าทั่วไป และเข้าข่ายเกณฑ์ของ SCG Green Choice ที่มีอยู่ 15 ข้อ อย่างน้อย 1 ข้อ เช่น การใช้วัตถุดิบหรือทรัพยากร ธรรมชาติลดลง (Reduce Resource Use) การใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) การใช้น้ำลดลง (Reduce Water Consumption) มีความเป็นมิตรต่อสุขอนามัย (Health or Hygiene) มีอายุการใช้งานนานขึ้น (Extended Life Product) การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Reduction) ความสามารถในการใช้ซ้ำหรือบรรจุใหม่ได้ (Reusable or
Refillable) ความสามารถในการสลายเป็นอินทรียวัตถุ (Compostable) ฯลฯ

SCG Green Choice มีกระบวนการรับรองและการสื่อสารที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และมีมาตรการควบคุมหรือเฝ้าระวัง คุณสมบัติตามที่ขอรับรอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้ผู้บริโภค “เราตั้งใจให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลสินค้า คุณสมบัติ และประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนของกลุ่มสินค้าที่มีฉลาก SCG Green Choice พร้อมเดินหน้าสร้างการรับรู้ผ่านสื่อทั้งออฟไลน์หน้าร้าน จุดขายสินค้า และทางสื่อออนไลน์ทุกช่องทางของ เอสซีจี” นิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวถึงการขับเคลื่อนฉลาก SCG Green Choice ให้เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ในใจของผู้บริโภค

ฉลาก SCG Green Choice
ให้การรับรองผลิตภัณฑ์ในด้านต่างๆต่อไปนี้

CLIMATE
RESILIENCE

leaf_icon

ด้านประหยัดพลังงานและลดโลกร้อน คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในด้าน การใช้พลังงานหมุนเวียน ลดการใช้พลังงาน และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาทิ

พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่
(Recovered Energy)

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
(Greenhouse Gas Reduction)

การใช้พลังงานหมุนเวียน
(Renewable Energy)

การใช้พลังงานลดลง
(Reduce Energy
Consumption)

CIRCULARITY

leaf_icon

ด้านประหยัดทรัพยากรธรรมชาติและยืดอายุการใช้งาน คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบรรลุเป้าหมายการหมุนเวียน อาทิ

การออกแบบให้สามารถ
แยกประกอบใหม่ได้

(Designed for Disassembly)

การใช้น้ำลดลง
(Reduce Water Consumption)

การลดของเสีย
(Waste Reduction)

การใช้วัตถุดิบหรือทรัพยากร ธรรมชาติลดลง
(Reduce Resource Use)

มีอายุการใช้งานนานขึ้น
(Extended Life Product)

สามารถเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้
หรือมีส่วนประกอบของวัสดุที่
เวียนกลับมาใช้ใหม่

(Recyclable or Recycled
Content)

การใช้วัสดุหมุนเวียน
(Renewable Materials)

ความสามารถในการใช้ซ้ำหรือ
บรรจุใหม่ได้

(Reusable or Refillable)

ความสามารถในการสลาย เป็นอินทรีย์วัตถุ
(Compostable)

WELL-BEING

leaf_icon

ด้านสุขอนามัยที่ดี คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมให้มี สุขอนามัยที่ดี และมีสภาพแวดล้อมมี
ความเหมาะสมต่อการทำงาน อาทิ

มีความเป็นมิตรต่อสุขอนามัย
(Health or Hygiene)

มีคุณสมบัติตามหลักการยศาสตร์
(Ergonomic Product)

นวัตกรรม ฉลากและกลยุทธ์สู่ความยั่งยืน

เบื้องหลังของสินค้า บริการ และโซลูชันที่จะได้รับการรับรองฉลาก SCG Green Choice คือการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี มาตอบโจทย์ที่ท้าทาย ในกระบวนการผลิตและคุณสมบัติ ตั้งแต่การใช้ทรัพยากรและพลังงานในกระบวนการผลิตให้น้อยลง เกิดของเสียน้อยลง แต่สินค้าต้องมีคุณสมบัติหรือประสิทธิภาพดีกว่าหรือเท่าเดิม มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นนำ กลับมาใช้ซ้ำ หรือรีไซเคิลได้ ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นในการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สำคัญของเอสซีจี 3 เรื่อง คือ

leaf_icon

การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศซึ่งเกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์
พลังงานและลดโลกร้อน

leaf_icon

เศรษฐกิจหมุนเวียน เกี่ยวข้องกับการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
การลดของเสียการใช้ซ้ำ การยืดอายุ
การใช้งาน ฯลฯ

leaf_icon

ความปลอดภัย เกี่ยวข้องกับ
เกณฑ์ด้านคุณสมบัติตามหลักการ
ยศาสตร์และสุขอนามัย

ตัวอย่างสินค้า บริการ และโซลูชันที่ได้รับฉลาก SCG Green Choice ที่ช่วยลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น ปูนซีเมนต์งานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด ซึ่งจะสื่อสารข้อมูลชัดเจนว่า “ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตได้อย่างน้อย 50 กิโลกรัมต่อตันปูนซีเมนต์”
สินค้า บริการ และโซลูชันที่ช่วยลดการใช้พลังงาน เช่น สารเคลือบเตาเผาอุตสาหกรรม emisspro® R Series “ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงอย่างน้อย 2%”

สินค้า บริการ และโซลูชันที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากร ลดการใช้น้ำ หรือมีวัสดุที่เวียน กลับมาใช้ใหม่ เช่น ฉนวนกันความร้อน SCG “ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 80% (ทดแทนการใช้ทรายธรรมชาติ 100%)” นวัตกรรมกระดาษ Idea Green “ผลิตจากเยื่อ Eco-fiber 50% ช่วยลดการใช้ไม้ใหม่”
สินค้า บริการ และโซลูชันที่ใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ระบบหลังคาโซลาร์เซลล์ เอสซีจี “ประหยัดค่าไฟรายเดือนตั้งแต่ 140 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป” (รุ่น Basic) และ “ประหยัดค่าไฟรายเดือนได้มากกว่า 1,370 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป” (รุ่น Platinum)

สินค้า บริการ และโซลูชันที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น เช่น โซลูชัน Top Up Roof “ช่วยยืดอายุการใช้งานของหลังคาเดิมได้อย่างน้อย 10 ปี เมื่อเทียบกับวิธีการแก้ไขแบบทั่วไป” สินค้า บริการ และโซลูชันที่ดีต่อสุขอนามัย เช่น บรรจุภัณฑ์ FEST Choice “ผลิตจากกระดาษสำหรับสัมผัสอาหาร ทนร้อน ไม่ละลาย ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย” กระเบื้องเซรามิกคอตโต้ รุ่น COTTO Hygienic Tile “ยับยั้งแบคทีเรียบนพื้นผิวกระเบื้องได้มากถึง 90%” กระเบื้องและครอบหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ เอสซีจี ทุกรุ่นทุกชนิด “ปลอดภัยต่อสุขอนามัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะใช้วัตถุดิบจากใยธรรมชาติ ปราศจากแร่ใยหิน” ท่อและข้อต่อพีวีซี เอสซีจี “ปลอดภัยจากสารตะกั่ว เป็นมิตรต่อสุขอนามัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างเหล่านี้ล้วนเป็นนวัตกรรมที่เอสซีจีวิจัยและพัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม พร้อมกับการดูแล ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

“เอสซีจียังคว้ารางวัลแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในฐานะองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อม Top Green Brand Love จากวิทยาลัย การจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ซึ่งตอกย้ำจุดยืนด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเอสซีจี ที่มุ่งมั่นมาตลอดด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชัน ซึ่งเอสซีจีเชื่อมั่นว่าฉลาก SCG Green Choice จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่าทุกสินค้า บริการ และโซลูชันที่ได้รับการรับรอง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ยืนยันความมุ่งมั่นบนเส้นทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเอสซีจี หัวใจสำคัญของฉลากสิ่งแวดล้อม SCG Green Choice คือการสื่อสารและสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคหันมาใช้สินค้า บริการและโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อจะเลือกซื้อสินค้าครั้งต่อไป มองหาฉลากสิ่งแวดล้อมบนบรรจุภัณฑ์ก่อนตัดสินใจ

เพราะ “คุณเลือกได้” เพื่อโลกของเรา

SCG GREEN CHOICE ดีต่อใคร ?

good-for-who-1
good-for-who-2
good-for-who-3
ลูกค้า
  • ประประหยัดการใช้พลังงาน
  • สุขอนามัยที่ดีน
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
เอสซีจี
  • เติบโตระยะยาว
  • เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
โลก
  • ลดโลกร้อน
  • สุขอนามัยที่ดีน