3,316
ปัญหาโลกร้อน อันตรายที่ใกล้ตัวขึ้นทุกที
ถ้าพูดถึงปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น คุณนึกถึงอะไร?
หมีขาวที่กำลังจะตาย?
น้ำทะเลที่กัดเซาะชายฝั่งเข้ามาทุกปี?
หรือภาพของภูเขาขยะที่เกาะกลุ่มเป็นเกาะยักษ์อยู่กลางมหาสมุทร?
เราเชื่อว่าปัญหาโลกร้อน หรือ Climate Emergency คือปัญหาที่เรารับรู้กันมานาน เห็นภาพกันอยู่ทุกวัน และหลายคนก็ลงมือแก้ในวิธีที่ตัวเองพอจะทำได้ไปแล้ว แต่ปัญหาคือเรายังคงสงสัยว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นเกิดผลต่อโลกจริง ๆ มั้ยนะ? ซึ่งระหว่างที่เรายังสงสัยกันอยู่นั้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ค่อย ๆ แย่ลงในทุกขณะจนเข้าสู่ภาวะวิกฤติที่เราทุกคนต้องเริ่มและร่วมมือแก้ปัญหานี้กันอย่างจริงจัง
เอสซีจี กับวิกฤติโลกร้อน
เอสซีจีให้ความสำคัญ และมี Passion ในแก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นไปตามความตกลงปารีส เพื่อควบคุมอุณหภูมิของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส รวมถึงการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปีพ.ศ. 2593 ภายใต้การดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) และการเป็นต้นแบบธุรกิจ ESG (Environmental, Social and Governance) ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมน่าอยู่ และบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล ในทุกกลุ่มธุรกิจ
8 แนวทาง สู่ Net Zero ในปี 2593
-
- เพิ่มการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลและแหล่งพลังงานสะอาด เช่น การใช้เชื้อเพลิงชีวมวลอัดก้อนจากเศษผลผลิตทางการเกษตร หรือโซลูชันระบบพลังงานแสงอาทิตย์
- ปรับเปลี่ยนกระบวนการและอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงขึ้น เช่น การใช้ AI บริหารจัดการพลังงาน ซึ่งสามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้กว่า 40,000 กิกะจูล/ปี
- วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เช่น พัฒนาสารเคลือบวัสดุทนไฟในเตาเผาอุตสาหกรรม (emisspro® R Series) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 2 แสนตันคาร์บอนไดออกไซด์/ปี
- พัฒนาสินค้า บริการ และโซลูชันที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น SCG Green Choice ฉลากที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย
- ใช้เครื่องมือด้านเศรษฐศาสตร์เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การนำ Internal Carbon Pricing (ICP) มาเป็นเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจลงทุนโครงการที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยใช้อัตรา 18 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวอย่างโครงการที่ได้รับการประเมินด้วย ICP คือ โครงการโซลาร์รูฟทอป 0.5 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 326 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
- พัฒนาระบบการบริหารด้านโลจิสติกส์ เพื่อสร้างความยั่งยืน ทั้งต่อลูกค้า ชุมชน และคู่ธุรกิจขนส่ง เช่น ระบบ Green Logistics ซึ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 8,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
- ปลูกและฟื้นฟูพื้นที่ป่า ทั้งบนบก ชายฝั่ง และหญ้าทะเล ให้มีความหลากหลายทางชีวิภาพและเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น โครงการปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน 176,070 ต้น และสร้างฝายเพิ่มความชุ่มชื้นรวมทั้งสิ้น 100,466 ฝาย
- จัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์พลังงานและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น แคมเปญลดโลกร้อนเริ่มที่เรา ที่ทำให้เราได้ไอเดียลดโลกร้อนกว่า 100,000 ไอเดีย จากผู้เข้าร่วมกว่า 65,000 คน
ทางออกของปัญหา คือหันมาร่วมมือกัน
แน่นอนว่าเอสซีจีเพียงองค์กรเดียว คงไม่สามารถสร้างให้เกิดผลสำเร็จในวงกว้างได้ เราจึงอยากร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตินี้ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกได้ (Sustainable Development Goals : SDGs)
พร้อมชักชวนทุกคน มาร่วมกัน ‘เปลี่ยน’ พฤติกรรมง่าย ๆ ใกล้ตัว เพื่อให้โลกที่คุณแคร์ แพชชันที่คุณชอบ และสิ่งที่คุณรักยังอยู่กับคุณไปอีกนาน พร้อมส่งต่อโลกใบนี้ให้กับรุ่นลูกหลานต่อไป